อัชชะโส อัชชะไชยโย อะชะในวันนี้ วันเป็นวันดี เป็นวันที่เจ้าจะเข้ามาบวชในศาสนา ก่อนที่จะเรียกขวัญ เวลานี้เป็นเวลาอันเหมาะ จะขอปัดเคราะห์สะเดาห์ภัย วัพป๊ะว่าเคราะห์ก็หื้อหลีหนไกล๋ สัพป๊ะว่าเคราะห์ทั้งหลายหมายถึงเคราะห์ฉิบเคราะห์หายเคราะห์ต๋ายเคราะห์วาย เคราะห์เมื่อเช้าเคราะห์เมื่องาย เคราะห์เมื่อขวายบ่ายหล้า เคราะห์ปีหลังตวามาถ้า เคราะห์ปีหน้าอย่ามาติด เคราะห์มาผิดหลายหลากเคราะห์ได้ปากเป็นกา เคราะห์เป็นลำมาใหล้ เคราะห์เจ็บไหม้ก็หื้อหลีกหนีไกล๋หื้อตกไปตามเส้นไหมหื้อยกย่างย้ายออกจากกายา ลงสู่พระสุธา อันลึกมากจนเถิงพระยานาค อย่าได้กลับคืนมา สัพป๊ะทุกข์ โรคา พยาธิ์วินาสันตุฯ
ไชยะตุภวังค์ ไชยะมังคลัง เป็นไชยะล้ำเลิศ ก่อนที่จะเรียกขวัญ ขอกล่าวกำเนิดกฎหมาย ยามเมื้อเจ้ามีวิญญาณ แอ่วแสวงหาลุกจากเมืองแมนเขตห้อง จากเทศท้องเมืองสวรรค์มาอยู่ในครรภ์แห่งห้อง อยู่ครรภ์ท้องแห่งแม่มารดา คามนักปราชญ์ทานกล่าวไว้ว่ามีวิญญาณ เท่าเส้นผมตัดมนผ่าแปด จึงจักแขวดเข้ามาติดกัน เหนือจอมขวัญแห่งพระพ่อ แรกก่อตั้งเอาปฏิสนธิ ในเคหะมงคลแห่งห้อง ตั้งอยู่ในท้องแม่มาดา แม่ก็เป็นห่วงบุตรีบุตราลูกเต้า อาหารที่เคยกินลำเมื่อก่อนนั้นเล่า กลัวลูกทุกข์โศกเศร้าภายใน ของกิ๋นใดส้มฝาดของกินลำจะหยากสักปานใด แม่ก็บ่กินลงไปเนอเจ้าเพราะกลัวลูกเต้าบ่ได้เกิดและบ่ได้หันบ้านเมือง พ่อเจ้าก็มีการฝืดเคืองหลายหลาก พ่อมีความทุกข์ยากแก่สาหัส กั้นใจอดเลี้ยงลูกเต้า ความหวังจะหื้อลูกเต้าใหญ่ขึ้นมา ยามเมื่อเจ้าเป็นโรคาน้อยใหญ่ ท่านก็เอาใจใสวิ่งหาหยูกยามาใส่หื้อเจ้า การที่เจ้าได้ใหญ่มาจนป่านนี้เล่าก็เพราะพ่อแม่เจ้าอุปถัมภ์บำรุงกันเอาใจใส่ ก็สูญเสียเปล่าลองทีละจะกินเข้าได้ยินเสียงลูกไห้เล่า ฟังวงกำเข้ายังแหนมกินจะไขความจริงหื้อเจ้า คนที่รักลูกเต้าเหลือแหล่ เราจะห่อเข้าไปเซาะหาวันคำเหมือนดั่งพ่อแม่นั้นนาหาบ่ได้ ในโลก๋าโลกหล้า จะกล่าที่พ่อแม่ได้ทุกข์ยากกับเจ้าจนพร้อมก็ดูจะยาวไป กล่าวแต่เพียงนี้พอชี้หื้อท่านเข้าใจ หื้อท่านวินิจฉัยเอาเนอเจ้าท่านก็จะรู้ว่าท่านเป็นหนี้บุญคุณ พ่อแม่ผู้บังเกืดเกล้า จะนับหื้อมันเสียงนั้นเล้า ก็เหลือที่จะพรรณนาก็หาที่สุดบ่ได้ สรุปใจความที่เจ้าเกิดใหญ่มาตราเถิงที่ได้มาบวชนีไซร้ ก็เพราะแม่เจ้าทั้งมวลฯ
ด้วยเหตุนี้ท่านบ่ควรลืมพ่อแม่ ผู้บังเกิดเกล้า จะต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เจ้า ที่ท่านเลี้ยงเฮามาวันนี้เป็นตกแต่งดา เรียกว่ามื้อจั๋นวันดี จึงตกแต่งขันบายศรีงขันบายศรีขอบนั้นนับว่าได้หลายชั้นใส่มาลา สัพป๊ะดกจุมป๋าจุ๋มปี๋ สารภีบานหอมอ่อนสลืดสะแล่งแบ่งบานชอนดอกคะยอม และดอกบานชื่นมีกลิ่นหอมหื่นชื่อใจ๋ พร้อมทั้งดอกเก็ตถะหวาสะบันงาหอมยืนบ่ก้ายเหน็บเหล้นม่ายสงสาร สลิดบานบ่หย่อน รสบ่ผ่อนกันธัง สัพป๊ะบุผังดวงดอกกไม้เยอปีล่านั้นไซร้ ก็เสาะสอดหาเอามา สัพปะโภชะนาขงกิ่นใส่ทางในมีกลิ่นหอมหื่น รวมเรียกว่าขันมงคลยืนยอถวาย บรรดาขวัญทั้งหลาย อันไคลคลาเหเจียรจาก หากขวัญเจ้าได้พรากจากก๋ายา แม่ว่ขวัญเจ้าไปลี้ป่าเส้าแดนดงหนา ก็หื้อรีบเร็วมาอย่าช้า ก็หื้อมาน้อมหน้าอยู่ก๋ายยา แม้นขวัญเจ้าจะได้ไคลคลาไปที่อื่น ไปชมชื่นติดอยู่น้ำค้าของขาย ไปใกล้และไกล๋จะไปติดอยู่ของอันใดจับมอก จะไปติดอยู่บ้านนอกหรือในเวียง วันนี้เป็นวันสุขเสถียรเที่ยงเต้า ขอเชิญขวัญเจ้ารีบมาเร็วมา เชิญมาชมบุผาดวงดอกไม้ อันตกแต่งไว้มีทั้งโภชนัง แม้นขวัญเจ้าไปอยู่ไกล๋อยู่มาก กินแก๋งอ่อนชิ้นลาบก็รีบมาเร็ว แม้นขวัญเจ้าไปอยู่โรงก๋วยเตี๋ยว ก็ขอรีบมาเร็วเต็มที่แม้นจะไปติดที่บะหมี่และข้าวซอย แม้นจะไปกอยอันใดของแปลกประหลาด มันสวยงามเลามากนักหนา ขวัญเจ้าอย่าไปสะหลำชำกาอยู่ที่ของลวงโลกวันนี้เป็นวันผาเสริฐเรียกว่าวันชัยมงคล เชิญสามสิบสองขวัญเข้ามาอยู่ในกายาในเลิศแล้ว หื้อมาทั้งขวัญคิ้วและขวัญต๋า ขวัญโสมาและขวัญแก้ม ขวัญจักษุต๋าแจ้งสว่างใสดี ทั้งขวัญหูมีทั้งคู่ ก็หื้อมาอยู่เทียมแฝงมาทั้งขวัญหลังขวัญแหล่ ขวัญข้างแข้งขวัญแขนขวัญมือสุบแหวนใฝ่อ้าง ดูสล้างหน่อเทียมคิง มาทั้งขวัญตีนอันเจ้าได้ย่ำใส่ดินไม้หนามถูกต้อง ขวัญสามสิบสองขวัญ ขอเชิญมาพร้อม หื้ออยู่แห่งห้องก๋ายาฯ (ต่อจากนี้ ให้ผู้ฮ้องขวัญเอาด้ายผูกมือส่างลอง(ส่างลอง)มาผูกข้อมือข้างซ้ายก่อน แล้วว่าต่อไป)
บัดนี้ขวัญเจ้าก็มาอยู่กับเจ้ากับจอม ตั้งแต่วันนี้ปายหน้าเจ้าจะได้เป็นลูกศิษย์พระพุทธองค์ตนสะอาด จะเป็นลูกศิษย์พระภาคองค์บรมศาสดา ตั้งแต่นี้คืนหลัง เจ้าเคยนุ่งกางเกงและสวมเสื้อ ตั้งแต่นี้ไปหน้าเจ้าจะไม่มีใจ๋ใฝ่อ้อกางเกงและเสื้อที่เจ้าเคยสวมมา ขอหื้อใฝ่ใจผ้าของพระพุทธาที่ท่านบัญญัติเอาไว้ก๋ารบวชนี้ไซร้ ก็บ่ใช้ของง่ายเนอนาย กันได้บวชแล้วก็ขอหื้อคิดไปหลายๆบ่ใช่ของง่ายอย่างใด จะอธิบายอย่างสังเขปไปหน้า อันหมูเฮาเจ้าข้า ได้บวชได้พบก็เป็นการอันยาก กันพระสิทธัตถะท่านบ่ออกบวช เฮาก็บ่พบศาสดา พระสิทธัตถะออกบวชชียาจะได้พระธรรม อันเป็นคสามจริงจะได้ตรัสรู้ก็เป็นอันยาก รู้แล้วจะเอาพระธรรมเผยแผ่ก็ยาก พอพระพุทธเจ้าได้ดับขันธ์ปรินิพพานไป กันพระสงฆ์เจ้าบ่ช่วยกันนำเอาศาสนามาเผยแพร่ เฮาก็บ่ได้ทันฮู้ได้หัน ตลอดถึงพระสงฆ์เจ้าในปัจจุบัน ครูบาจารย์ช่วยแนะนำสั่งสอนเจ้า มีแต่พระสงฆ์เจ้าสืบศาสนากันบิดามารดาบ่เอาใจใส่ เจ้าบ่ได้ใหญ่มาเป็นคน บ่ได้บวชในพระศาสนาพระทัสสะพลต๋นผ่านเผ้า เจ้าครบบริบูรณ์แล้วทุกอย่างพันอัน เมื่อเจ้าอยากได้อย่างนี้ หื้อเจ้าคิดขวดรู้เข้าใจหันขอหื้อศึกษาเล่าเรียนธรรมพ่ำเพ็งอย่าขาด อย่าได้ประมาทสมที่เจ้าได้บวชยากนักหนา ส่วนศีลข้อใดๆบ่จำต้องบอก ท่านก็ได้เรียนมาแล้วตลอดรู้แล้วรู้รอดเหมือกนกันหื้อพ่ำเพ็งศีลธรรมไปไจ้ๆ แหล่จะได้โผดพ่อแม่วงศา โผดญาติกาและศรัทธาการบวชในพระศาสนาขอหื้อเป็นบุญกุศลกับท่านหื้อมีแสงสว่างต่อศีลธรรม พุทธศาสนาจะดีงามรุ่งเรืองไปปายหน้านับว่าบ่เสียเวลา ที่ท่านเกิดมาในโลกหย้าพบ พระพุทธศาสนาที่ผู้ข้าได้พรรณนาโวหารมานี้สมควรแก่เวลา ผู้ข้าบ่ใช่เทศนาสั่งสอนเจ้า เพียงแต่เตือนสติกันพ่อง พอรู้เรื่องถ้อยทางพระพุทธศาสนาเป็นการวิเศษประวรบัดนี้จะขอหื้อพร หื้อเจ้าตั้งแต่วันนี้ไปหน้าเล้า หื้อท่านผาศะจากเสียงสัพพะทุกขะ สัพพะโรคา สัพพะอุบาวท์ สพพะภัยยะกังวล อันตราย เป็นต้นว่า เคราะห์ปี เคราะห์เดือน เคราะห์วัน เคราะห์หลับ เมื่อตื่น เมื่อยืน เมือเตียว เมื่อเคียวเมื่อกิ๋น จุ่งระงับกลับกลายไปเป็นดั่งอุทั่ง ไหลกลิ้งกลาดตกจากใบบัวใบหมอ ขอประกอบไปด้วยอายุปี อายุเดือน อายุยาม โชคปี โชคเดือน โชควัน โชคยามไปไจ้ๆ หื้ออยู่ค้ำชูศาสนาองค์พระสะหลีสัพพัญญูพะพุทธเจ้า ตนประเสริฐแล้วแจ้ว ไปตราบเลี้ยงจิระกาลนานนักนั้นเน้อ จุ่งจักมีเที่ยงแท้ดีหลีฯ (แล้วว่าสัพพี..............ต่อจนจบ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น