สมัยโบราณกาลบ้านเมืองยังไม่เจริญผู้คนยังไม่มากนักบ้านเรือนตั้งอยู่ห่างกัน การคมนาคมไปมาหาสู่กันยังไม่สะดวก สมัยนั้นต้องเดินด้วยเท้า และใช้แรงงานสัตว์ กว่าจะถึงบ้านก็มืดค่ำ เหน็ดเหนื่อย สมัยก่อนจะมีตลาดนัดก็คือ กาดหลู่ ใกล้ออกพรรษา 2-3 วัน เจ้าของตลาดจะบอกว่าพรุ่งนี้จะเป็นกาดหลู่ให้บอกต่อๆกันไป ใครมีของอะไรมาขายก็ให้มาขายทั้งวันทั้งคืน บางคนก็เก็บดอกไม้ ข้าวตอกทำคัวหลู่ และของอื่นๆมากมายหลายอย่างเช่น ลูกไม้ หัวมัน ขนมสด ขนมเทียนห่อด้วยใบตอง มาขาย ประชาชนตามชนบทห่างไกลก็จะเข้ามาหาซื้อของกันและพากันเดินมาที่กาดหลู่ในตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย แห่งเดียว บ้างก็มาค้างคืน พวกหนุ่มสาวก็มาจีบกันอย่าง สนุกสนานกันทั้งคืน จะมีการซื้อข้าวปลาอาหารเพื่อเตรียมไปถวายวัดในวันออกพรรษา พอรุ่งเช้าก็ชวนกันกลับบ้าน พอถึงวัน 14 ค่ำ ก็จะเตรียมแต่งดาขนม ข้าวต้ม ทำข้าวปลาอาหาร เพื่อไปถวายวัดในวัน 15 ค่ำ บางพวกก็พากันเข้าป่าหาดอกไม้ป่า ใบตองกล้วยมาทำกรวยดอกในวัน 15 ค่ำ ผู้คนก็จะพากันไปหลู่ตาน ห่ออาหารคาวหวาน ตื่นตีสาม ตีสี่ไปทานให้ผู้สูงอายุตามบ้านต่างๆ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่ทางบ้านก็จะแต่งดาข้าวซอมต่อตางจองพาราที่บ้านใครบ้านมัน เสร็จแล้วแต่งเนื้อแต่งตัวพากันเอาขันข้าวตอกดอกไม้ข้าวปลาอาหาร ของหวาน ที่ซื้อมาจากกาดหลู่ ไปถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และนำเอาไปรวมกันที่วัดจนกองใหญ่โต แล้วก็ รับศีล ฟังเทศน์เสร็จแล้วจะกลับบ้าน เป็นเสร็จพิธีกาดหลู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น